บริษัทรับทำ SEO สายขาว
- การันตีผลลัพธ์ใน 60 วัน *
สนใจทำ SEO สายขาว
ลูกค้าแบรนด์ชั้นนำที่ไว้วางใจให้ Predictive ดูแลทำ SEO
































ทำไมคุณถึงต้องเลือก Predictive สำหรับบริการ SEO
เสริมศักยภาพธุรกิจของคุณให้โดดเด่นบน Google ด้วยบริการรับทำ SEO ครบวงจรจากทีมงานมืออาชีพ ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อพาธุรกิจของคุณติดอันดับหน้าแรกอย่างยั่งยืน ด้วยเทคนิค SEO อัปเดตล่าสุด เราพร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่คุณไว้วางใจ ช่วยเพิ่มการมองเห็นของธุรกิจคุณในโลกดิจิทัล และสร้างความแตกต่างในตลาด พร้อมทั้งยกระดับการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ร่วมมือกับเราวันนี้ เพื่อปลดล็อกศักยภาพทางการตลาดของคุณกับบริการรับทำ SEO ที่ครบวงจรและเชี่ยวชาญโดย Predictive
ประโยชน์ของการใช้บริการ SEO สำหรับธุรกิจของคุณ
ลดต้นทุนทางธุรกิจ
ลดค่ายิงโฆษณา เพิ่มการมองเห็นแบบยั่งยืน
SEO ช่วยให้ลูกค้ามองเห็นคุณ
ทำเว็บแล้วไม่มีคนเห็นให้ Predictive ช่วย
SEO ช่วยสร้าง Brand Awareness
เพิ่มการรับรู้ให้กับลูกค้าของ คุณ
SEO ช่วยให้เข้าใจลูกค้ามากขึ้น
Audience ที่ถูกต้อง จะสามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาล
SEO ทำให้แบรนด์ของคุณ ชนะคู่แข่ง
ยิ่งมีคีย์เวิร์ดที่ติดผลการค้นหาบนหน้า Google มาก ยิ่งดี
เทคนิค SEO ล่าสุดที่เราใช้
Predictive – SEO Strategy 2024

อัลกอริทึมของ Google พยายามเชื่อมโยงผู้ค้นกับเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง (Helpful Content) ที่ตอบสนองต่อคีย์เวิร์ดที่ผู้คนกำลังค้นหา ให้ได้เนื้อหาที่ตรงใจผู้ค้นหามากที่สุด
กลยุทธ์ SEO ที่ดี ที่มีประสิทธิภาพ สามารถกำหนดได้ง่าย ๆ ว่า: ทำอย่างไรก็ได้ ให้เว็บไซต์ของเรานั้น มีข้อมูลที่มีประโยชน์ สามารถเป็นแหล่งแก้ปัญหาให้กับผู้ค้นหาได้ โดยต้องเป็นภาษาอ่านที่มีคีย์เวิร์ดการค้นหานั้น ๆ อยู่ด้วย
1.การเข้าใจ Personas ของลูกค้า
การพัฒนากลยุทธ์ SEO ที่ได้ผลสำเร็จนั้น ต้องอาศัยการเข้าใจและเลือกกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ วิธีที่ได้ผลคือการกำหนดบุคลิกของลูกค้า ซึ่งเป็นกระบวนการอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น เป้าหมายในชีวิต, ความท้าทาย, และคุณสมบัติเฉพาะที่ทำให้พวกเขามีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงความคิดหรือความเชื่อ การสร้างบุคลิกลูกค้าช่วยให้คุณเข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.เข้าใจเรื่องการค้นหาแบบเจาะจง
จุดประสงค์ในการค้นหา หมายถึงเหตุผลหรือชุดคำถามที่ผู้ค้นหามีความตั้งใจที่จะค้นหาคำเหล่านั้นแบบเฉพาะเจาะจง เช่น วิธีทำ SEO จะเห็นว่า intent ของประโยคนี้คือ วิธีทำ + SEO คงไม่มีใครค้นหาแค่คำว่า SEO หรอก จริงไหมครับ3.Hub & Spoke Strategy
การจัดระเบียบเนื้อหาที่มีความใกล้เคียงกันด้วยการสร้าง Content Hub หรือหน้าที่มีแต่เนื้อหาที่ใกล้เคียงกัน ที่ทำให้ผู้ค้นหาสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวชข้องกับคำค้นหานั้น ๆ ได้ทั้งหมด เป็นวิธีเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ของเรา ให้ถูกมองเห็นบน Google Search มากขึ้น4.ประเภทของหน้าเว็บที่เหมาะกับแต่ละคีย์เวิร์ด
Search Intent (การค้นหาแบบเจาะจง) | Page Type (ประเภทของหน้า) |
Buy (หน้าซื้อ-ขาย) | Landing Page |
Commit ( | Case Study |
Evaluate | Comparison Blog Article |
Clarify | Problem & Solution Blog Article |
Solve | Blog Article |
Explore | Hub Page |
Learn | Most “learn” topics are too far from the point of conversion to justify targeting in an SEO campaign |
5.สร้างเนื้อที่มีประโยชน์
หน้าที่ดีที่สุดบนผลการค้นหาใน Google Search คือหน้าที่สามารถตอบสนองต่อจุดประสงค์การค้นหาของผู้ค้นหาได้ Google มักจะเลือกหน้าที่ให้ประโยชน์แก่ผู้ค้นหามาแสดงผลเสมอ เพราะ Google ถูกสร้างมาเพื่อให้คำตอบในสิ่งที่คนอยากรู้ โดยจะนำส่งคำตอบที่ดูดีที่สุด มีแหล่งอ้างอิงที่ดี มาแสดงผลให้ผู้ค้นหาให้อ่านเพื่อหาคำตอบกั
ให้ธุรกิจของคุณโตอย่างยั่งยืนด้วย SEO สายขาว



5 ขั้นตอนก่อนเริ่มต้นทำ SEO

1. Keyword Research & SEO Strategy
ขั้นตอนแรกในการทำ SEO คือการวิจัยคีย์เวิร์ด โดยเริ่มจากการใช้เครื่องมือเพื่อหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของคุณ จากนั้นวิเคราะห์คีย์เวิร์ดของคู่แข่งเพื่อดูว่าพวกเขาใช้อะไรบ้างและได้ผลอย่างไร จากนั้นพัฒนากลยุทธ์คีย์เวิร์ดโดยแบ่งออกเป็นคีย์เวิร์ดหลัก คีย์เวิร์ดรอง และคีย์เวิร์ดทำเงิน พร้อมกับวางแผนเนื้อหาที่จะใช้คีย์เวิร์ดเหล่านี้อย่างเหมาะสม และตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนรวมถึงตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPIs) เช่น จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์แบบออร์แกนิค อันดับคีย์เวิร์ด และ Conversion Rate

2. Audit Website Structure and Technical SEO
ขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบโครงสร้างเว็บไซต์และ SEO ทางเทคนิค โดยเริ่มจากการใช้เครื่องมือเช่น Screaming Frog เพื่อสแกนเว็บไซต์และระบุปัญหาทางเทคนิค เช่น ลิงก์เสีย เนื้อหาซ้ำ แท็กเมตาหายไป หรือความเร็วในการโหลดหน้าช้า จากนั้นวิเคราะห์โครงสร้างของเว็บไซต์เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นมิตรต่อผู้ใช้และง่ายต่อการเข้าถึง แก้ไขปัญหาทางเทคนิคต่างๆ และปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพรูปภาพ การใช้แคชชิงของเบราว์เซอร์ และลดเวลาการตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์ นอกจากนี้ยังต้องแน่ใจว่าเว็บไซต์มีการใช้งาน HTTPS เพื่อความปลอดภัย

3. On-page Structure
การปรับปรุงโครงสร้างภายในหน้าเว็บ (On-page SEO) เป็นสิ่งสำคัญ โดยเริ่มจากการตรวจสอบและปรับปรุงเนื้อหาทุกหน้าให้มี Title, Description, Header (H1, H2, H3) ที่เป็นเอกลักษณ์และเหมาะสม ผสมผสานคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องอย่างธรรมชาติในเนื้อหาเพื่อรักษาความน่าอ่านและประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดี ใช้โครงสร้างข้อมูลแบบ schema markup เพื่อช่วยให้เครื่องมือค้นหาสามารถเข้าใจเนื้อหาและแสดงผลเป็น Rich Snippest ในหน้าผลการค้นหา นอกจากนี้ควรเพิ่มประสิทธิภาพของสื่อ เช่น การใช้ alt text สำหรับรูปภาพและการตั้งชื่อไฟล์ให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มการค้นหาใน Google รูปภาพ

4. Off-Page SEO (Backlink Analysis and Optimization)
การทำ SEO นอกเว็บไซต์ (Off-page SEO) เริ่มจากการวิเคราะห์โปรไฟล์ลิงก์ที่มีอยู่โดยใช้เครื่องมือเช่น Ahrefs หรือ Moz เพื่อดูว่ามีลิงก์ใดที่อาจเป็นอันตรายหรือคุณภาพต่ำก็ควรลบทิ้ง จากนั้นพัฒนากลยุทธ์การสร้างลิงก์โดยสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงที่ดึงดูดการเชื่อมโยงจากเว็บไซต์อื่นๆ เช่น บล็อก อินโฟกราฟิก หรือบทวิจัย ติดต่อกับผู้มีอิทธิพลในวงการหรือเว็บไซต์อื่นๆ เพื่อขอโอกาสในการโพสต์บทความหรือลิงก์กลับมาตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพลิงก์อย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของโดเมน

5. Report Follow Up
ขั้นตอนสุดท้ายคือการติดตามผลและรายงานผลการทำ SEO โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์เช่น Google Analytics และ Google Search Console เพื่อตรวจสอบการเข้าชมเว็บไซต์ อันดับคีย์เวิร์ด และตัวชี้วัดอื่นๆ สร้างรายงานที่แสดงข้อมูลสำคัญและการปรับปรุงที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด รวมถึงใช้กราฟและแผนภูมิเพื่อให้ข้อมูลเข้าใจง่าย ทบทวนกลยุทธ์ตามผลลัพธ์ที่ได้รับและปรับปรุงตามข้อมูลใหม่ๆ สื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างต่อเนื่องเพื่ออัปเดตความก้าวหน้าและแผนการในอนาคต
คำถามที่พบบ่อยในการทำ SEO
SEO (Search Engine Optimization) คือกระบวนการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ติดอันดับในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา เช่น Google เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเว็บไซต์ ซึ่งสำคัญเพราะช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมและยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ต้องขอบอกแบบนี้ก่อนว่า การทำ SEM ที่ทุกคนรู้จักกันนั้น แท้จริงแล้วมันคือ Search Engine Marketing ที่เป็นหัวใหญ่สุดของ “Search Engine Optimization” (SEO) กับ “Pay Per Click” (PPC)
SEO เป็นการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ติดอันดับในผลการค้นหาธรรมชาติ ขณะที่ PPC “Pay Per Click” เป็นการใช้โฆษณาเพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับในผลการค้นหาแบบชำระเงิน
บริษัทรับทำ SEO มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการวางแผนและดำเนินการ SEO อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีเครื่องไม้เครื่องมือที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างรวดเร็ว
การทำ SEO โดยใช้วิธีการที่ถูกต้องและปลอดภัยตามกฎของ Google เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและไม่เสี่ยงต่อการถูกลงโทษ
รีวิวจากลูกค้าของเรา






บริการรับทำ SEO แบบคุณภาพสูง
©2025 | Predictive